วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การขอลดราคา-การจ่ายเงิน




ประโยคสอบถามราคาภาษาอังกฤษ มักใช้ประโยคต่อไปนี้
How much is it?
ฮาว มัช อีส อิท
มันราคาเท่าไหร่
How much are they?
ฮาว มัช อาร์ เธย์
พวกนั้นราคาเท่าไหร่
How much does it cost?
ฮาว มัช ดาส อิท คอสท
ราคาเท่าไหร่ (สินค้าชิ้นเดียว)
How much do they cost?
ฮาว มัช ดู เธย์ คอสท
ราคาเท่าไหร่ (สินค้าหลายชิ้น)
How much is this shoes?
ฮาว มัช อีส ธิส ชูส
รองเท้าคู่นี้ราคาเท่าไหร่
How much is that shirt?
ฮาว มัช อีส แธท เชิร์ท
เสื้อเชิ๊ตตัวนั้นราคาเท่าไหร่
How much are these sweets?
ฮาว มัช อาร์ ธีส สวิทส
ขนมพวกนี้ราคาเท่าไหร่
How much are those bags?
ฮาว มัช อาร์ โธส แบกส
กระเป๋าพวกนั้นราคาเท่าไหร่
Can you check the price?
แคน ยู เช็ค เธอะ ไพรซ
ช่วยเช็คราคาให้หน่อยได้ไหม

What is the price?
วอท อีส เธอะ ไพรซ
ราคาเทาไหร่
What is the retail price?
วอท อีส เธอะ รีเทล ไพรส
ราคาขายปลีกเท่าไหร่
What is the wholesale price?
วอท อีส เธอะ โฮลเซล ไพรซ
ราคาขายส่งเท่าไหร่
How much is that…in the window?
ฮาว ม้ช อีส แธท…อิน เธอะ วินโด
…ที่อยู่ในตู้โชว์นั่นราคาเท่าไหร่ครับ
Can I get a price check for this?
แคน ไอ เกท อะ ไพรซ เชค ฟอร์ ธิส
ช่วยเช็คราคาของนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม
It’s very cheap.
อิทส เวรี ชีพ
ถูกมากมาย
A little expensive.
อะ ลิทเทิล อิคสเพนซิฟว
แพงไปหน่อยนะ
It’s very expensive.
อิทส เวรี อิคสเพนซิฟว
แพงมากเลย

ประโยคสนทนาการต่อรองราคาภาษาอังกฤษ มักใช้ประโยคต่อไปนี้
Can you give me a discount?
แคน ยู กิฟว มี อะ ดิสเคาท
ลดให้หน่อยได้ไหม
Can you make it…baht?
แคน ยู เมค อิท…บาท
ราคา…บาท ได้ไหม
I can only spend…baht.
ไอ แคน โอนลี สเพนด…บาท
ฉันมีจ่ายแค่…บาทเอง
How about a discount?
ฮาว อะเบาท อะ ดิสเคาท
มีส่วนลดไหมครับ
Do you have any promotions?
ดู ยู แฮฟว เอนนี โพรโมชันส
มีโปรโมชั่นอะไรบ้างไหม
Do you deliver?
ดู ยู ดิลิฟเวอะ
คุณมีบริการส่งไหม
Does it come with a guarantee?
ดาส อิท คัม วิธ อะ แกเรินที
มีการรับประกันไหม
It comes with a one year guarantee.
อิท คัมส วิธ อะ วัน เยียร์ แกเรินที
มีการรับประกัน 1 ปี
Can you give me a little more discount?
แคน ยู กิฟว มี อะ ลิทเทิล มอร์ ดิสเคาท
ช่วยลดมากว่านี้หน่อยได้ไหม
Could you lower the price a little bit?
คูด ยู โลเออะ เธอะ ไพรซ อะ ลิทเทิล บิท
ช่วยลดราคาอีกนิดได้ไหม
Could I have a …percent discount?
คูด ไอ แฮฟว อะ…เพอร์เซนท ดิสเคาท
ลดให้ฉันสัก….เปอร์เซ็นต์ได้ไหม
We can make a better price.
วี แคน เมค อะ เบทเทอะ ไพรซ
เราสามารถลดราคาให้ได้ครับ
It’s on sale for only…baht.
อิทส ออน เซล ฟอร์ โอนลี…บาท
ตัวนี้ลดราคาอยู่เหลือ…บาท
Make it ten percent discount, sir.
เมค อิท เทน เพอร์เซนท ดิสเคาท เซอะ
มีส่วนลดให้ 10 เปอร์เซ็นต์ค่ะคุณ
I can’t give you more discount.
ไอ แคนท กิฟว ยู มอร์ ดิสเคาท
ฉันลดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
I’m sorry…baht is impssible.
ไอม ซอรี…บาท อีส อิมพอสซิเบิล
เสียใจครับ ราคา…บาท ผมขายให้ไม่ได้

เมื่อลูกค้าได้ของที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายสินค้าอาจถามเพิ่มเติมด้วยคำว่า “ต้องการอะไรเพิ่มไหมค่ะ” สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้ เช่น
Anything else?
เอนนีธิง เอลซ
Would you like anything else?
วูด ยู ไลค เอนนีธิง เอลซ
Do you want anything else?
ดู ยู วอนท เอนนีธิง เอลซ
Can I get you anything else?
แคน ไอ เกท ยู เอนนีธิง เอลซ

ประโยคสนทนาเกี่ยวกับการชำระเงินภาษาอังกฤษ เช่น
Do you take credit cards?
ดู ยู เทค เครดิท คาร์ดส
รับบัครเครดิตไหม
Can I pay by credit card?
แคน ไอ เพย์ บาย เครดิท คาร์ด
จ่ายด้วยเครดิตการ์ดได้ไหม
Can I pay by cheque?
แคน ไอ เพย์ บาย เชค
จ่ายด้วยเช็คได้ไหม
I’ll pay in cash.
ไอล เพย์ อิน แคช
ฉันจะจ่ายเป็นเิงินสด
I’ll pay by card.
ไอล เพย์ บาย คาร์ด
ฉันจะจ่ายด้วยบัตร
Could I have a receipt?
คูด ไอ แฮฟว อะ รีซีท
ขอใบเสร็จด้วยได้ไหม
Sorry, we don’t take a credit card.
ซอรี วี โดนท เทค อะ เครดิท คาร์ด
ขอโทษครับ เราไม่รับบัตรเครดิต
Credit card accepted at minimum amount of…baht.
เครดิท คาร์ด แอคเซพทิด แอท มินนิมัม อะเมานท ออฟ…บาท
รับบัตรเครดิตตั้งแต่…บาทขึ้นไป

Please pay at the cashier.
พลีซ เพย์ แอท เธอะ แคชเชียร์
รบกวนชำระเงินที่แคชเชียร์ครับ
You gave me…baht.
ยู เกฟว มี…บาท
คุณให้มา…บาท
Your change is…baht.
ยัวร์ เชนจ อีส…บาท
เงินทอนของคุณ…บาทครับ
Received…baht.
รีซีฟวด…บาท
รับมา…บาท
…baht change.
…บาท เชนจ
ทอน…บาทครับ
Do you have smaller bills?
ดู ยู แฮฟว สมอลเลอะ บิลส
มีแบงค์ย่อยไหมค่ะ
Yes. How do you like them?
เยส ฮาว ดู ยู ไลค เธม
มีครับ ต้องการแบบไหนครับ
What’s your return policy?
วอทส ยัวร์ รีเทิร์น พอลลิซี
มีบริการเปลี่ยน/คืนสินค้าไหม

ในกรณีสินค้ามีปัญหาหรือต้องการเปลี่ยนสินค้าภาษาอังกฤษ สามารถใช้ประโยคต่่างๆ ได้ดังนี้
Can I change it?
แคน ไอ เชนจ อิท
ฉันของเปลี่ยนได้ไหม
Can I change them?
แคน ไอ เชนจ เธม
ฉันขอเปลี่ยนของพวกนี้ได้ไหม
May I have the good one?
เมย์ ไอ แฮฟว เธอะ กูด วัน
ฉันขออันที่ดีๆ ได้ไหม
Give me the new one?
กิฟว มี เธอะ นิว วัน
ฉันขออันใหม่ได้ไหม
Can you give me a new one?
แคน ยู กิฟว มี อะ นิว วัน
คุณช่วยเอาอันใหม่ให้ฉันได้ไหม
Do you have the receipt?
ดู ยู แฮฟว เธอะ รีซีท
คุณมีใบเสร็จมาด้วยไหม
Could you show me the receipt?
คูด ยู โช มี เธอะ รีซีท
ขอดูใบเสร็จรับเงินด้วยครับ
Sure. We can do that for you.
ชัวร์ วี แคน ดู แธท ฟอร์ ยู
ได้ครับ เรายินดีเปลี่ยนให้คุณ

Sorry. We can’t do that for you.
ซอรี วี แคนท ดู แธท ฟอร์ ยู
ขอโทษครับ เราไม่สามารถให้คุณเปลี่ยนได้ครับ
Sorry. It’s nonrefundable.
ซอรี อิทส นันรีฟันดเอเบิล
ขอโทษครับ ไม่สามารถคืนเงินได้
Sorry. We run out of brand.
ซอรี วี รัน เอาท ออฟ แบรนด
ขออภัยครับ ยี่ห้อนี้หมดแล้ว
We don’t have color in our stock now.
วี โดนท แฮฟว คัลเลอะ อิน เอาเออะ สทอค นาว
ตอนนี้สต๊อคสินค้าของเราไม่มีสีนี้เลยครับ
I’m sorry. We don’t have the size.
ไอม ซอรี วี โดนท แฮฟว เธอะ ไซส
ขออภัยครับ เราไม่มีไซส์นี้
They are all sold out. You can get a refund from us.
เธย์ อาร์ ออล โซลด เอาท ยู แคน เกท อะ รีฟันด ฟรอม อัส
สินค้าจำหน่ายไปหมดแล้วครับ คุณสามารถรับเงินคืนจากเราได้นะครับ

ตัวอย่างบทสนทนาการซื้อสินค้าภาษาอังกฤษ มาดูตัวอย่างกันต่อไปนี้

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ (Conversation)
A :Good morning, Madam. Anything I can do for you?
กูด มอร์นิง แมดเดิม เอนนีธิง ไอ แคน ดู ฟอร์ ยู
สวัสดีตอนเช้าครับคุณผู้หญิง มีอะไรที่ผมจะรับใช้คุณได้บ้างครับ
B :Yes, yesterday I bought a dress. I’ve just found out that it has a defect.
เยส เยสเทอะเดย์ ไอ บอท อะ เดรส ไอฟว จัสท เฟานด เอาท แธท อิท แฮส อะ ดิเฟคท
ค่ะ คือเมื่อวานนี้ฉันซื้อชุดไป แล้วเพิ่งเห็นว่ามันมีตำหนินะคะ
A :Really. I’m very sorry to hear that.
เรียลลิ ไอม เวรี ซอรี ทู เฮียร์ แธท
จริงหรือครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ
B :Can I change it?
แคท ไอ เชนจ อิท
ฉันขอเปลี่ยนได้ไหมค่ะ
A :Certainly. A I see the receipt, please?
เซอทันลี เอ ไอ ซี เธอะ รีซีท พลีซ
แน่นอนครับ ผมขอดูใบเสร็จหน่อยได้ไหมครับ
B :Here you are. And thank you very much.
เฮียร์ ยู อาร์ แอนด แธงคิว เวรี มัช
นี่ค่ะใบเสร็จ ขอบคุณมากนะคะ
อ้างอิง:http://engenjoy.blogspot.com/2014/02/shopping_20.html

การถาม-ทาง


ถามทาง (Asking for directions)

  • Excuse me, could you show me the way to Siam Square? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปสยามสแควร์ให้ผมได้ไหม)
  • Excuse me, where is the Central Department Store? (ขอโทษ ห้างเซ็นทรัลไปทางไหนครับ)
  • Do you know where Miracle Grand Hotel is? (คุณทราบไหมว่าโรงแรมมิราเคิลแกรนด์อยู่ที่ไหน)
  • Do you know where the toilet is? (คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน)
  • Do you know the way to the Airport? (คุณรู้ทางไปสนามบินไหม)
  • Excuse me, could you show me how to get to this address? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปยังที่อยู่นี้แก่ผมได้ไหม)
  • Excuse me, how do I get to the Ma Boon Krong Shopping Center? (ขอโทษ ผมจะไปศูนย์การค้ามาบุญครองยังไงครับ)
  • Excuse me, where is the nearest public telephone? (ขอโทษครับ โทรศัพท์สาธารณะใกล้ที่สุดอยู่ไหนครับ)
  • How can I get to the Grand Place? (ผมจะไปพระบรมมหาราชวังยังไงครับ)

คำตอบบอกทิศทาง-สถานที่ (Reply for directions)

  • Turn left. (เลี้ยวซ้าย)
  • Turn right. (เลี้ยวขวา)
  • Turn left at the next corner. (เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมข้างหน้า)
  • Go straight ahead. (ตรงไปเลย)
  • It’s to your right (left). (อยู่ทางขวา (ซ้าย) มือของคุณ)
  • It’s across the street. (อยู่ตรงข้ามถนน)
  • Turn right at the intersection. (เลี้ยวขวาที่สี่แยก)
  • It’s behind that building. (อยู่หลังตึกนั้น)
  • It’s in front of that big building. (อยู่หน้าตึกใหญ่นั่น)
  • It’s near the bridge. (อยู่ใกล้สะพาน)
  • It’s close to the bus terminal. (อยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง)
  • It’s very far from here. (อยู่ไกลจากที่นี่มาก)
  • It’s not far from here. (ไม่ไกลจากนี่)
  • It’s a huge brick building. (เป็นตึกอิฐหลังใหญ่)
  • It’s to the right of the railway station. (อยู่ทางขวาของสถานีรถไฟ)
  • It’s over the bridge. (อยู่ข้ามสะพานไป)
  • You will see the building on your right. (คุณจะเห็นตึกอยู่ทางขวามือของคุณ)
  • Keep going until you get to a small bridge. (เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงสะพานเล็กๆ)
  • It’s about 200 meters from here. (อยู่ห่างจากนี่ 200 เมตร)
  • It’s on the other side of the park. (อยู่อีกด้านหนึ่งของสวน)

ตัวอย่างบทสนทนา

Sample 1 :

A        :         Excuse me. Could you give me directions?  (ขอโทษครับช่วยบอกทางผมหน่อย)
B        :         Where are you going? (คุณกำลังจะไปที่ไหนครับ)
A        :         I’m looking for the Emerald Buddha Temple. (ผมกำลังมองหาวัดพระแก้วอยู่ครับ)
B        :         Go straight to the next intersection and turn right. (ตรงไปเรื่อยๆจนถึงสี่แยกหน้า แล้วเลี้ยวขวาครับ)
A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

Sample 2 :

A        :         Can you tell me where the railway station is?  (บอกผมหน่อยได้ไหม สถานีรถไฟไปทางไหน)
B        :         Yes, go straight ahead until you reach the intersection. Don’t turn. Go on straight ahead. You’ll come to another intersection. Then turn right. You’ll see the railway station in front of you. (ครับ เดินตรงไปจนกว่าจะถึงสี่แยก อย่าเลี้ยว เดินตรงไปข้างหน้าอีก คุณจะมาถึงอีกสี่แยกหนึ่ง แล้วเลี้ยวขวา คุณจะเห็นสถานีรถไฟอยู่ตรงหน้าคุณเลย)
A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)
B        :         You are welcome. (ยินดีครับ)

Sample 3 :

A        :         Excuse me, is this the way to the Northern Bus Terminal? (ขอโทษครับ ทางนี้ไปขนส่งหมอชิตใช่ไหม)
B        :         No, not this one. Do you see the main road over there? (ไม่ใช่ทางนี้ครับ คุณเห็นถนนใหญ่ที่นั่นไหม)
A        :         Yes, sir.  (เห็นครับ)
B        :         Go to that road, turn right, go straight on until you find a huge brick building. That is the bus terminal. (ไปตามถนนสายนั้น เลี้ยวขวา ตรงไปจนกระทั่งคุณเจอตึกอิฐหลังใหญ่ นั่นล่ะสถานีหมอชิต)
A        :         Thank you. (ขอบคุณครับ)

การทักทาย



อ้างอิง:http://engenjoy.blogspot.com/2013/03/greeting.html
Hello.
(เฮลโล) / (ไฮ)
สวัสดี
Good morning.
(กูด มอร์นิง)
สวัสดีตอนเช้า
Good afternoon
(กูด อาฟเทอะนูน)
สวัสดีตอนบ่าย
Good evening
(กูด อีฟวนิง)
สวัสดีตอนเย็น
Good night
(กูด ไนท)
ราตรีสวัสดิ์

หากจะถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง/ สบายดีไหม เช่น
How are you?
(ฮาว อาร์ ยู)
How are you today?
(ฮาว อาร์ ยู ทูเดย์)
Are you OK?
(อาร์ ยู โอเค)
How are you doing?
(ฮาว อาร์ ยู ดูอิง)
How’s if going?
(ฮาวส อิท โกอิง)
How’s everything?
(ฮาวส เอฟวริธิง)
เมื่อเขาถามมาเราก็สามารถตอบกลับไป ได้เช่น เป็นอย่างไรบ้าง / แล้วคุณล่ะครับ ดังตัวอย่างนี้
Great.
(เกรท)
สบายมาก
Pretty good.
(พริทที กูด)
สบายมาก
I’m doing very well.
(ไอม ดูอิง เวรี เวล)
สบายมาก
Fine.
(ไฟน)
สบายดี
I’m fine.
(ไอม ไฟน)
ฉันสบายดี
All right.
(ออล ไรท)
สบายดี
My pleasure.
(มาย เพลชเชอะ)
มีความสุขดี


Okay. / OK.
(โอเค)
ก็ดี
So so.
(โซ โซ)
งั้นๆ, เฉยๆ
Pretty well.
(พริทที เวล)
พอใช้ได้
Not so good.
(นอท โซ กูด)
ไม่ดีเลย
Not very well.
(นอท เวรี เวล)
ไม่ดีเลย


Pretty bad.
(พริทที แบด)
ค่อนข้างแย่
Terrible.
(เทอระเบิล)
แย่มาก

หากต้องการถามกับไปเหมือนกันว่า แล้วคุณล่ะ ให้ใช้ประโยชน์ดังนี้
And you ?
(แอนด ยู)
And youself ?
(แอนด ยัวร์เซลฟ)
How about you ?
(ฮาว อะเบาท ยู)
How about yourself ?
(ฮาว อะเบาท ยัวร์เซลฟ)

ตัวอย่างบทสนทนา ทักทายภาษาอังกฤษ
A: Good morning, Mr.B. How are you ?
(กูด มอร์นิง มิสเทอะ บี ฮาว อาร์ ยู)
สวัสดีตอนเช้าครับคุณบี สบายดีไหมครับ

B: I’m fine, thank you, Mr.A. And you ?
(ไอม ไฟน แธงคิว มิสเทอะ เอ แอน ยู)
ผมสบายดีครับ ขอบคุณครับคุณเอ แล้วคุณล่ะ

A: Very well, thank you.
(เวรี เวล แธงคิว)
สบายดีครับ ขอบคุณ